1 ความหมายของ
การอนุญาตให้ใช้สิทธิ (Licensing)
คือ
การที่เจ้าของเทคโนโลยี/ผลงานวิจัย/ทรัพย์สินทางปัญญา(Licensor) อนุญาตให้หน่วยงานหรือผู้ประกอบธุรกิจขอรับอนุญาตใช้สิทธิ(Licensee) สามารถใช้เทคโนโลยี/ผลงานวิจัย/ทรัพย์สินทางปัญญาตามขอบเขตและเงื่อนไขที่ตกลงกัน
เช่น เพื่อการผลิตและขายเพื่อใช้งานเพื่อทดสอบประสิทธิภาพ เป็นต้น
โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.
การอนุญาตให้ใช้สิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive
Licensing) คือ
ผู้ได้รับอนุญาตจะมีสิทธิใช้สิทธิดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียวในอาณาเขตที่กำหนด
โดยที่ผู้อนุญาตหรือเจ้าของสิทธิก็ไม่มีสิทธิใช้สิทธิดังกล่าวในอาณาเขตที่กำหนด
2.
การอนุญาตให้ใช้สิทธิโดยไม่จำกัดแต่เพียงผู้เดียว (Non-Exclusive
Licensing) คือ ผู้ได้รับอนุญาตจะมีสิทธิใช้สิทธิดังกล่าว
แต่ผู้อนุญาตหรือเจ้าของสิทธิก็ยังมีสิทธิให้ผู้อื่น
หรือตนเองใช้สิทธิดังกล่าวในอาณาเขตได้อีกด้วย
(-อาณาเขตการใช้สิทธิ หมายถึง คู่สัญญาสามารถตกลงให้คู่สัญญาฝ่ายที่ได้รับอนุญาตมีสิทธิใช้สิทธิดังกล่าวเพียงเฉพาะเขตพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งก็ได้
เช่น เฉพาะบางจังหวัดประเทศทวีปใดทวีปหนึ่งก็ได้
หรือจะให้สิทธิผู้รับอนุญาตใช้โดยไม่จำอาณาเขตก็ได้
-ระยะเวลาการให้ใช้สิทธิ
หมายถึง คู่สัญญาสามารถตกลงให้คู่สัญญาฝ่ายที่ได้รับอนุญาตมีสิทธิได้ใช้สิทธิดังกล่าวเพียงระยะเวลาใดระยะเวลาหนึ่งที่กำหนดตกลงกันไวก็ได้หรือกำหนดเงื่อนไขหรือเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเป็นเหตุสิ้นสุดการให้ใช้สิทธิก็ได้หรือจะให้ผู้รับอนุญาตใช้สิทธิโดยไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดก็ได้)
2 ธุรกิจ
Licensing คือ การที่เจ้าของธุรกิจให้ใบอนุญาตแก่กิจการหนึ่งสามารถใช้เครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ และสิทธิ์ทางการตลาดอื่นๆ ของตน
โดยได้ค่าตอบแทนจากสัญญาสัมปทานตามที่ได้ตกลงกัน เช่น ธุรกิจ Licensing ที่ Google อนุญาตให้ Uber
ใช้ Google Maps บนแอพพริเคชั่น ได้
การขายลิขสิทธิ์ปัจจุบันในยุคใหม่เกิดขึ้นบนPlatform ออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ให้เช่าโรงแรมอย่างAgoda เว็บไซต์ขายลิขสิทธิ์รูปอย่างGettyImageหรือแอปพลิเคชันสตรีมเพลงอย่างSpotifyคือหนึ่งในตัวอย่างการวาง Business Model เรื่องขายลิขสิทธิ์รูปแบบใหม่บนโลกออนไลน์โดยโมเดลนี้ค่อนข้างเหมาะกับ Business
ใหม่ๆบทโลกดิจิทัลอย่างมากโดยเฉพาะธุรกิจประเภทซอฟต์แวร์และสายงานการทำคอนเทนต์ (Content Creator) ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ เกม บทความ เพลง รูปภาพ เป็นต้น
3 ตลาด Licensing ในภูมิภาคเอเชียได้กลายเป็นตลาดที่มีความสดใสและแพร่หลายมากขึ้น ธุรกิจ Licensing มีแนวโน้มเติบโตอย่างมาก
โดยในปี 2556 มียอดการค้าปลีกทั่วโลก 155.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งร้อยละ 60
มาจากการค้าในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ต่อด้วยยุโรปและเอเชีย ตามลำดับ ในปี 2556
จีนมียอดการค้าปลีกในธุรกิจ Licensing ทั้งหมดคิดเป็นมูลค่า
5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้จีนมีขนาดของธุรกิจLicensing ที่ใหญ่เป็นอันดับ2 ในระดับภูมิภาคเอเชีย หรือคิดเป็นร้อยละ 29 และมีญี่ปุ่นตามมาเป็นอันดับ3การเติบโตอย่างรวดเร้วโดยเฉพาะสื่อดิจิตอลในจีนได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตของธุรกิจ Licensing สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยมีอัตราการเติบโตอย่างชัดเจนในปี 2552
ซึ่งมียอดขาย 3.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มเป็น 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี
2556 โดยมีบริษัท Warner Bros ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการขาย License ตัวละครเรื่อง
Harry Potter เช่นเดียวกับบริษัทMarvelที่มียอดขายจากธุรกิจLicensingในจีนผ่านตัวการ์ตูนอย่าง
Monsters University และ Frozen โดยตัวการ์ตูนทั้ง
2 ได้ถูกนำไปทำเป็นของเล่นยอดฮิตต่างๆ มากมายในระหว่างปี 2556-2557
คิดเป็นมูลค่ากว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
4. ธุรกิจที่ขาย licensing เช่น 1.microsoft ในปี2018ไมโครซอฟท์เคยลดราคาไลเซนส์ Windows
10 ให้กับผู้ผลิตที่จะวางขายโน้ตบุ๊กหน้าจอเล็กกว่า14.1นิ้วโดยการลดราคานี้มาจากการแข่งขันกับChromebook ของกูเกิล ที่ไม่ได้มีค่าไลเซนส์ระบบปฏิบัติการChromeOSทำให้ฮาร์ดแวร์มีราคาถูกกว่า และผู้ผลิตหลายรายที่ผลิตฮาร์ดแวร์บนแพลตฟอร์ม
Windows อย่าง ลีโนโว เอเซอร์ เอซุส เดลล์
และซัมซุงได้เปิดตัว Chromebook กันมากขึ้น
2.ดิสนี่3.อดิดาส4.Marvelและwarnerbros5.adobe 6.เลโก้
5.ธุรกิจที่ซื้อ licensing 1. ร้านเสื้อผ้า Giordano ที่ซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูนของ Walt
Disney มาผลิตสินค้าเป็นลายต่างๆ บนเสื้อผ้า บริษัท ENS เจ้าของ License ตัวการ์ตูนดังในฮ่องกงอย่าง B
Duck ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในระดับภูมิภาค
6. ยกตัวอย่างบริษัทที่ประสบความสำเร็จจากการซื้อlicensing คือ บริษัท เลโก้ Lego
เลโก้ คือ ของเล่นที่ฉลาดที่สุดในโลก ประวัติบริษัท เลโก้ ผู้คิดค้นชื่อว่า Ole Kirk Christiansen เขาเป็นช่างไม้ผีมือที่เก่งที่สุด
ณ เมืองบิลลุนด์ ประเทศเดนมาร์ก
เลโก้เป็นตัวต่อพลาสติกยอดนิยมที่มีลักษณะเหมือนก้อนอิฐหลากสีสันและขนาดที่มีปุ่มและร่องให้ประกอบเข้าด้วยกันโดยไม่ใช้กาว
เพื่อให้ผู้เล่นนําไปต่อเป็นรูปร่างต่าง ๆ นาๆ
ในปี
1999 ตัวต่อเลโก้ได้รับการเสนอชื่อเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์แห่งศตวรรษ
(Products of the Century) โดยนิตยสารฟอร์จูน
หลายปีที่ผ่านมาเลโก้ซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูนและภาพยนตร์จํานวนมากมายมหาศาลมาทําเป็นธีมของเล่น อาทิเช่น Cars, Harry Potter, Indiana Jones, Lord of the Rings, Pirates of
the Caribbean, Prince of Persia, Speed Racer, Spider-Man, Star Wars, Super
Heroes, Toy Story, และ The Hobbit เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นอันดับ1ของโลกเลยทีเดียว
ฝากติดตาม facebook fanspage คลิกลิ้ง:The Between
0 ความคิดเห็น